การทำบุญครั้งสำคัญที่ “หลวงพ่อคูณ” ได้กล่าวไว้ว่า “รู้สึกดีใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้” คือการได้ทูลเกล้าถวายเงินแด่ในหลวงรัชกาลที่9
ตลอดช่วงเวลาที่ “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ดำรงขันธ์เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่พุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศนั้น ท่านบำเพ็ญทานบารมีอย่างยิ่งใหญ่ไม่เคยหยุด
แม้หลังจากละสังขาร ท่านก็ได้บริจาคร่างกายเป็นครูใหญ่ให้กับ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ความเมตตาต่อญาติโยมและสังคมของหลวงพ่อคูณนั้น มิอาจประมาณได้ดั่งที่ลูกศิษย์ลูกหาต่างยกให้ท่านเป็น “เทพเจ้าแห่งที่ราบสูง”
ทว่ามีการทำบุญอยู่ครั้งหนึ่งที่ หลวงพ่อคูณ ได้กล่าวไว้ว่า “รู้สึกดีใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้” นั่นคือการที่ได้ทูลเกล้าถวายเงินจำนวน 72 ล้านบาทแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในคราวเสด็จ พระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีบรรจุ และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐาน ณ บุษบกเหนือ พระอุโบสถ วัดบ้านไร่ ในวันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2538
ในการทูลเกล้าถวายเงินครั้งนั้น หลวงพ่อคูณ กล่าวไว้ว่า….
“กูรู้สึกดีใจหาที่เปรียบไม่ได้ บุญทานอื่นทำมามาก แต่ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัวฯ ยังไม่ได้ทำ ทำบุญกับท่านยิ่งใหญ่ ทูลเกล้าฯ ถวาย 72 ล้านบาท ภูมิใจมหาศาล เงินที่ลูกหลานบริจาคที่ละเล็กทีละน้อยสะสมรวมไว้เพื่อทูลเกล้าฯ ถวาย พี่น้องจะได้ร่วมกันรับอานิสงส์ด้วย”
และในช่วงปลายของชีวิต หลวงพ่อคูณก็ได้ตั้งใจอย่างแน่วแน่ในการบริจาคร่างเพื่อให้เป็นครูใหญ่แก่ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ดังปรากฏข้อความบางตอนจากคำสั่งเสียของหลวงพ่อคูณว่า
“…กูมาคิดได้ว่าอยากจะสร้างบารมีด้วยการบริจาคศพ ดีกว่าเอาไปเผาทิ้ง ให้เขาเอาไปเป็นทาน ได้เป็นครูเขา พวกลูกหลาน เมื่อถึงเวลาที่กูหมดลมหายใจแล้ว พวกมึงก็อย่าได้หน่วงเหนี่ยว และให้เขาไปเถอะ เพราะมันจะเสียเจตนาของกู ขอให้อนุโมทนากับกู…”
**********************
ที่มาข้อมูล : วันชนะ(๒๕๕๒) ,กูมีแต่ธรรมะ กรุงเทพมหานคร ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด หน้า ๙๓, อาจาริยานุสรณ์ พระเทพวิทยาคม จัดทำโดยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ข่าวที่เกี่ยวข้องในอดีต
ขอขอบคุณที่มา
https://www.posttoday.com/social/general/578546